Chereads / A Perfect System for a Perfectionist in the Post-Apocalypse World / Chapter 39 - เตรียมตัวก่อนศึกใหญ่ (1)

Chapter 39 - เตรียมตัวก่อนศึกใหญ่ (1)

คาแรคเตอร์ทั้งสามมีเลเวลสูงจนเกือบเต็มเพดานเลเวล โดยเฉพาะผู้จัดการเบ็ดเตล็ดที่ปัจจุบันอัพเกรดจาก SR (ซุปเปอร์แรร์) เป็น SSR (สเปเชียลซุปเปอร์แรร์) เขาไม่น่าจะถูกมนุษย์หรือซอมบีจัดการได้ง่าย ๆ

มันทำให้ผมขนลุกเมื่อคิดว่าทั้งสามอาจถูกคอลเลคเตอร์เล่นงาน

ผมแยกตัวออกมาจากกลุ่ม ใช้การ์ดซ้ำของหมอดูไพ่ยิปซีเพื่อชุบชีวิตเธอ

[ข้อมูลคาแรคเตอร์]

[ชื่อ: เอสเมอรัลดา ทัฟเฟอร์]

[ฉายา: หมอดูไพ่ยิปซี]

[ระดับ: SR (ซุปเปอร์แรร์)]

[ค่าสถานะ: <ปิดซ่อน>]

[รายละเอียด: หญิงวัยกลางคนผู้ดูสุขุมลึกลับ นอกจากการตอบคำถามเรื่องการพยากรณ์และการพูดจาแบบมีนัยยะซึ่งเป็นปริศนาแต่เกี่ยวพันกับเรื่องโชคชะตา เธอจะไม่ยอมพูดอย่างอื่นอีกหรือพูดน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่หลาย ๆ ครั้งสิ่งที่ทายออกมาก็สรุปไม่ได้ว่าจะเป็นประโยชน์จริง ๆ หรือเปล่า หรือคลุมเครือเกินไป เธอต่อสู้ป้องกันตัวแบบผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งได้เท่านั้น ถ้าเป็นเรื่องของตัวเอง เธอไม่สามารถพยากรณ์ได้]

[สกิล: ฟอร์จูนรีดดิง]

เอสเมอรัลดาไม่ใช่คนที่เหมาะกับการสอบถาม เธอพูดน้อย พอพูดทีก็ชอบใช้คำพูดที่ดูเป็นปริศนา แต่แม่หมอคนนี้เป็นคนที่เป็นพยานเหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุให้ผมต้องชุบชีวิตเธอขึ้นมาได้

อยากให้คาแรคเตอร์ที่ตายไปอธิบายสิ่งที่เจอด้วย 'ระบบคอมเมนต์' แบบที่พวกนั้นใช้แซวอยู่ตลอดเวลา น่าเสียดายที่ระบบไม่ได้ถูกออกแบบมาแบบนั้น หากอยากสอบถามก็ต้องคืนชีพให้เสียก่อน แต่กว่าจะคืนชีพให้ก็คือต้องเสียเวลาไป ยกเว้นแต่จะอัพเกรดซึ่งจะให้ผลทันที

"เกิดอะไรขึ้น"

เธอไม่ได้เอ่ยอะไรนอกจากหยิบไพ่ใบหนึ่งออกมาให้ผม มันเป็นไพ่เด็กหนุ่มกับดาบเล่มโต ผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับไพ่ทาโรต์ แต่สามารถเดาจากรูปได้ไม่ยากว่าไม่ใช่เรื่องดี

"โดนใครเล่นงานมา"

"คมดาบแบบเดียวกัน"

ผมถอนหายใจ คราวนี้ปริศนาไม่ได้ยาก คมดาบแบบเดียวกันต้องหมายถึงทักษะเกี่ยวกับระบบ เธอกำลังสื่อว่าศัตรูคงจะเป็นคอลเลคเตอร์นั่นเอง แต่ที่มันทำให้น่าเหนื่อยใจก็ตรงที่เธอสื่อสารตรง ๆ กับผมไม่ได้นี่แหละ

แบบเดียวกับมายาที่ชอบพูดว่า "ดาบของฉัน มันกำลังเรียกร้องหาเลือด" นิสัยชอบพูดสั้น ๆ แถมยังพูดให้ดูมีลับลมคมใน สำหรับผมแล้วนับเป็นอาการที่เข้าข่ายเรียกว่า 'ป่วยจิต' อีกแบบหนึ่ง

ผมเรียกคาแรคเตอร์ทุกใบที่มีอยู่ออกมา จากนั้นจึงแอบไปนัดประชุมลับที่โรงนาโดยมีเพียงเพื่อน ๆ ของแอนที่ไม่ถูกเรียกมาร่วมประชุมด้วย

"พยายามรีดข้อมูลเอสเมอรัลดาเพิ่มแล้ว แต่ไม่มีประโยชน์ จากที่เธอ พอล เจสซิกาและเจมส์พูด ไม่เคยมีใครรู้ว่ามีคอลเลคเตอร์ซ่อนตัวอยู่ในประเทศเล็ก ๆ นี้"

"น่าจะมาจากข้างนอก" แคทพึมพำ "...บางทีอาจสะกดรอยตามเรามาก็ได้"

"เป็นไปได้นะคะ ถึงพวกเราจะระวังตัวขนาดไหน มันก็มีสกิลที่ช่วยตามรอยได้อยู่ดี"

แอนพูดพร้อมกับเหลือบไปมองทางจอน หลายครั้งหลายหนที่พวกเราหาสิ่งที่ไม่มีเงื่อนงำจากทักษะการสืบของจอนที่ไม่ว่าดูยังไงก็คล้ายเวทมนตร์ นักสืบตาเดียวคนนี้ช่วยพวกเรามาแล้วหลายครั้ง

"ถ้าอีกฝ่ายแข็งแกร่งพอ ๆ กันกับเจ้าคนที่เราเจอที่แรทฟอร์ต คงต้องทุ่มกำลังทั้งหมดเลยครับ" จอนตอบ

"หวังว่าคนนี้จะมีกำลังรบไม่เท่าหมอนั่น ตอนนั้นพวกเราเสียกระสุนไปเกือบหมด จนถึงตอนนี้ก็ยังหามาเติมได้ไม่ถึงหนึ่งในห้า" อลิซาเบธเอ่ยเสียงเครียด

มายา เมย์และไมราเกือบจะยกมือขึ้นขอพูดพร้อมกัน ผมให้เมย์ผู้ทำตัวเหมือนพี่สาวคนโตพูดก่อน ซึ่งมันทำให้มายาหน้าเหวอเล็กน้อยเพราะเธอต่างหากคือพี่สาวคนโต

"หนูว่าปิดเรื่องพลังของคุณคามิลไว้ไม่ได้แล้วค่ะ พอการต่อสู้เริ่มขึ้น คุณคามิลต้องใช้พวกเราทั้งหมด ยังไม่นับเรื่องใช้พลังของระบบชุบชีวิตหรือเปลี่ยนการ์ดเป็นอาวุธ ปิดเพื่อนคุณแอนไม่ได้หรอกค่ะ"

"อาา เมย์ ทำไมมาแย่งเรื่องที่พี่จะพูดไปหมดล่ะเนี่ย" มายาร้องโวยวาย แน่นอนว่าคนที่ต้องขอโทษแทนกลายเป็นน้องสาวทั้งสองคน

ผมไม่ได้สนใจพวกแฝดสาม ตาของผมไปสะดุดกับแคทที่กำลังกุมคางครุ่นคิด

"ไม่ต้องกังวลมากเกินไป พวกเราแค่ประเมินเผื่อกรณีที่อีกฝ่ายเหนือกว่า บางทีอาจไม่ได้เป็นปัญห…"

"ฉันแปลกใจ" แคทแทรกก่อนผมพูดจบ "การล่าซอมบีปลอดภัยกว่า คะแนนที่ได้ก็ไม่ได้น้อยกว่าด้วย ทำไมถึงมีคอลเลคเตอร์อยากล่าคอลเลคเตอร์ด้วยกันล่ะ"

"ถ้าไม่เกี่ยวกับความคุ้มค่า ก็คงทำเพื่อตัดคู่แข่งหรือไม่ก็ถูกมิชชันบังคับมาล่ะมั้ง"

"คุณคามิลยังไม่เคยเจอมิชชันแบบนั้นเลย ทำไมกัน"

"ถึงมี ผมก็ไม่อยากไปเล่นงานใครโดยไม่จำเป็นหรอก"