"ผู้ใดที่ถูกท่านเฟลาทิสเลือก วิญญาณของคนผู้นั้นจะได้ไปสถิตอยู่ในสรวงสวรรค์ชั่วนิจนิรันดร์" จากวรรคหนึ่งในคัมภีร์แรกเริ่ม อลิเซ่ พากาเม้าส์
ปีที่ 789
บ่ายวันนี้เป็นวันที่อากาศแสนจะสดใส คนในหมู่บ้านทั้งหมดราว 300 คน ไม่ว่าจะคนแก่ คนหนุ่มสาว หรือเด็กๆต่างยืนตัวเปลือยเปล่า และยืนกันคนละข้างเท่าๆกันพลางเว้นที่ขนาดใหญ่ให้เทพเฟลาทิส เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ได้เลือกพวกเขา
คนทั้งหมู่บ้านกำลังคุยกันอย่างออกรสชาติและพากันเดาว่าวันนี้ใครจะเป็นผู้โชคดีที่ถูกเลือกตัวโดยเทพเฟลาทิส บางคนก็เดาว่าอาจจะเป็นเด็กที่พึ่งที่เพิ่งหัดเดินที่ยังมีความมบริสุทธิ์อยู่อย่างเต็มเปี่ยม บางคนก็เดาว่าอาจจะเป็นหนุ่มวัยรุ่นที่ตั้งใจและขยันทำฟาร์มและมักซ่อมแซมของต่างๆในหมู่บ้านให้โดยไม่คิดค่าตอบแทน
มีคนเดาว่าใครจะได้เป็นผู้ถูกเลือกมากมายแต่คนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ บาทหลวงอเล็กซ่า ชายอายุ 40 กว่าๆ ผมหงอกทั้งหัว ตัวสูง ดวงตาสีดำสนิท และแต่งตัวซอมซ่อ เขาหน้าที่เป็นผู้นำทางศาสนาและผู้ศรัทธาในตัวเทพเจ้าเฟลาทิสมากที่สุด ว่ากันว่าบาทหลงอเล็กซ่าเป็นผู้ที่ศรัทธาในตัวเทพเฟลาทิสมากที่สุดมาตั้งแต่เด็กๆและเขาพยายามทำดีเพื่อคนในหมู่บ้านมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้เทพเฟลาทิวเป็นคนเลือกเขา ความพยายามและความดีของเขาทำให้คนในหมู่บ้านรักเขาและยกย่องเทิดทูนเขาเป็นอันมาก
บาทหลวงอเล็กซ่าคนนั้น ตอนนี้กำลังยืนตัวเปลือยเปล่าอย่างสำรวมและภาวนาอย่างสิ้นหวังให้เทพเฟลาทิสเลือกเขา บาทหลวงอเล็กซ่ากุมมือสองมือภาวนาด้วยท่าทีน่าเลื่อมใส จนคนในหมู่บ้านหลายๆคนพากันสวดภาวนาบ้าง บางคนก็ถึงกับสวดภาวนาให้บาทหลวงอเล็กซ่าเป็นผู้ถูกเลือกด้วยซ้ำ
เมื่อคนในหมู่บ้านเริ่มภาวนาไปได้ระยะ ก็มีแสงเจิดจ้าสว่างวาบขึ้น และเทพเฟลาทิสก็ปรากฏตัว
เทพเฟลาทิสเป็นเทพเจ้าที่รูปร่างคล้ายๆคนยกเว้นเพียงแต่ตัวใหญ่กำยำกว่ามาก ท่านเป็นเทพร่างสูงสี่เมตร และมีร่างกายกำยำ เพพเฟลาทิสนั้นตัวเปลือยเปล่าทำให้เห็นผิวกายสีเหลืองและขนที่ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งร่างกาย ท่านมีใบหน้าที่แสนเป็นมิตร ท่านมีผมยุ่งเหยิงสีดำ ดวงตาสีดำกลมโต และมีรอยยิ้มที่แสนวิเศษที่สุดเพราะรอยยิ้มของท่านสามารถฉีกยิ้มกว้างได้ถึงใบหู เทพเฟลาทิสขี่ม้าตัวใหญ่ราวสามเมตรสีดำสนิท เทพเฟลาทิสขี่ม้าอย่างช้าๆกำลังจะเข้าหมู่บ้าน เมื่อคนในหมู่บ้านเห็นเทพเฟลาทิสปรากฎตัวแล้ว คนทั้งหมดโดยมีบาทหลวงอเล็กซ่าเป็นคนนำก็ได้เริ่มเปล่งเสียงร้องพร้อมๆกัน
"โอ้ พรของท่านนั้นแสนมหัศจรรย์ สำเนียงช่างไพเราะ มันได้ช่วยเหล่าคนผู้เคราะห์ร้ายอย่างพวกเรา ที่ครั้งหนึ่งเคยอดอยาก ให้ได้อิ่มท้อง โอ้ ท่านเฟลาทิส ครั้งหนึ่งพวกเราเคยปวดร้าวไร้ทางออก แต่พรของท่านทำให้พวกเราพบแสงสว่าง พืชพรรอาหาร สัตว์น้อยใหญ่ ทั้งหลาย ท่านประทานให้พวกเรา โอ้ ท่านเฟลาทิส ได้โปรด รับพวกเราไปเถิด จงเลือกพวกเราด้วยเถิด จงพาวิญญาณของพวกเราไปสถิตอบู่บนสรวงสวรรค์ด้วยเถิด" เสียงร้องประสานของคนนับสามร้อยคนของคนทั้งหมู่บ้านเปล่งออกมาอย่างพร้อมเพรียงและแสนไพเราะ ระหว่างที่เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ท่านเฟลาทิส เดินควบม้าอย่างช้าๆ
เฟลาทิสขี่ม้าตัวนั้นอย่างช้าๆพลางก้มลงมองหน้าของชาวบ้านแต่ละคนไปมาจนในที่สุดท่านก็หยุดม้าลงราวกับเจอสิ่งที่ท่านตามหาแล้ว เทพฟาลาทิสยกมือใบใหญ่ขึ้นมาเป็นเชิงว่าให้หยุดร้องเพลง
เทพเฟลาทิสลงจากม้าและก้มลงใช้มือใบใหญ่ของท่านจับหัวเด็กผู้ชายวัย 7 ปีคนหนึ่ง เด็กคนนั้น มีผมสีดำ ผิวขาว ตาสีฟ้าดุจดั่งท้องฟ้าในวันที่ฟ้าสดใสที่สุด มือของเทพเฟลาทิสนั้นใหญ่โตถึงขนาดที่ถ้ากำมือแล้วก็สามารถบีบหัวเด็กคนนั้นได้
"เจ้า รู้จักข้ารึเปล่า" เทพเฟลาทิสพูดด้วยเสียงด้วยเสียงทุ้มใหญ่ ใบหน้านิ่งเฉย
"ขอรับ ข้ารู้จักท่านขอรับ ท่านเทพเฟลาทิส เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ท่านเป็นเทพเจ้าที่ทำให้หมู่บ้านของเราไม่อดอยาก ท่านเป็นเทพเจ้าที่ดลบันดาลให้พืชพรรณเจริญโต ท่านทำให้แม่น้ำใสสะสาดจนพวกเราสามารถดื่มได้ ท่านดลบันดาลน้ำฝน ท่านคือเทพอุปถัมภ์ของเรา" เด็กคนนั้นพูดไม่หยุดด้วยความดีใจที่มีโอกาสได้พูดกับเทพเฟลาทิส
"ข้าขอขอบคุณท่านมากๆขอรับ เพราะความเมตตาของท่านพวกเราถึงสามารถมีความสุขได้" เด็กน้อยพูดเสร็จก็ก้มหัวจนสุดตัวเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างถึงที่สุด
"โอ เจ้าถูกสอนมาดีเหลือเกิน เด็กน้อย" เทพเฟลาทิสยิ้มกว้างจนขอบปากของท่านไปถือใบหู
"แฮะๆ พ่อผมสอนมาน่ะขอรับ" เด็กน้อยชี้ไปยังพ่อของตน ปลายทางของนิ้วนั้นคือบาทหลวงอเล็กซ่า ผู้ที่ตอนนี้กำลังยืนตัวสั่นด้วยอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างเบาๆจนไม่มีใครสังเกตุเห็นยกเว้นตัวเขาเอง
เมื่อเทพเฟลาทิสเห็นว่าพ่อของเด็กคนนี้คือบาทหลวงอเล็กซ่าก็ดูพอใจ "โอ้ อเล็กซ่า เจ้าเลี้ยงลูกของเจ้ามาได้ดีเหลือเกิน"
"ขอบพระทัยขอรับ แต่ข้าเพียงแต่บอกเล่าถึงสิ่งที่จริงแท้ที่ท่านได้ดลบันดาลเพื่อหมู่บ้านของพวกเราเท่านั้นเองขอรับ" บาทหลวงอเล็กซ่าก้มหัวแสดงความขอบคุณและนอบน้อมต่อเทพเฟลาทิส
"ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าถ่อมตัวเกินไปแล้วอเล็กซ่า ลูกๆของเจ้าแต่ละคนช่างเป็นเด็กที่วิเศษจริงๆ" เทพเฟลาทิสหัวเราะอย่างมีความสุขระหว่างที่พูดกับบาทหลวงอเล็กซ่า
"ขอบพระคุณขอรับ ข้าดีใจเหลือเกินที่ท่านได้เลือกลูกๆของข้าเป็นเชื้อเพลิงต่อเติมชีวิตให้ท่าน" บาทหลวงอเล็กซ่าพูดระหว่างที่ก้มหัว
"ฮ่าฮ่าฮ่า เอาหัวขึ้นเถอะอเล็กซ่า มันก็เป็นเรื่องที่ข้าควรทำอยู่แล้วในการพาตัวเด็กๆที่แสนวิเศษเหล่านี้ขึ้นไปยังสรวงสวรรค์"
"ขอรับ" บาทหลวงอเล็กซ่าพูดพลางยกหัวขึ้น เทพเฟลาทิสเมื่อพูดกับบาทหลวงอเล้กซ่าเสร็จก็หันมาพูดกับเด็กคนนั้น
"เจ้าชื่ออะไรละเด็กน้อย" เทพเฟลาทิสถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
"ข้าชื่ออกาธาขอรับ" เด็กคนนั้นพูดพลางยิ้มแป้นอย่างมีความสุข
"ฮ่าฮ่าฮ่า อกาธาบุตรแห่งอเล็กซ่าสินะ ฮ่าฮ่าฮ่า" เทพเฟลาทิสหัวเราะอย่างมีความสุข และเอามือมาลูบหัวอกาธาอีกครั้ง
"อกาธา อีก 7 วันข้าจะมารับตัวเจ้าไปยังที่พำนักของข้า จงทำอะไรที่เจ้าอยากทำให้เสร็จก่อนวันนั้นล่ะ" เทพเฟลาทิสยิ้มจนปากไปถึงใบหูอีกครั้ง
"ขะ-ขอบพระคุณมากขอรับที่เลือกข้า" อกาธาก้มตัวลงจนหัวแทบติดพื้น
"ฮ่าฮ่าฮ๋าฮ่า ช่างเป็นเด็กที่นอบน้อมจริงๆ" เมื่อเทพเฟลาทิสพูดเสร็จก็เดินไปขึ้นม้าและภายในเวลาไม่นานนักแสงสว่างก็พลันเกิดขึ้นอีกครั้ง และเทพเฟลาทิสก็หายไป
คนในหมู่บ้านต่างเข้ามารุมแสดงความยินดีกับอกาธา
"ดีใจด้วยนะอกาธา เจ้าช่างโชคดีเหลือเกิน" ยายแก่คนหนึ่งพูดกับอกาธาด้วยรอยยิ้มพลางลูบหัวอกาธา อกาธายิ้มอย่างมีความสุข
"โธ่ อกาธา ทำไมเจ้าโชคดีจังนะ แต่ก่อนถึงวันที่ท่านเฟลาทิสกลับมา เจ้าต้องมาเล่นกับพวกเราให้มากขึ้นนะ" เพื่อนๆวัยเดียวกันของอกาธาแต่มาแสดงความยินดีกับอกาธาและอิจฉานิดๆที่อกาธาถูกเลือก
"หนูน้อยโชคดีสุดๆไปเลยนะ พี่ก็อยากถูกเลือกมั่งจัง" สาววัย 20 ปลายๆลูบหัวอกาธาด้วยความเศร้าที่ตนไม่ได้ถูกเลือก
มีคนเข้ามาพูดคุยและแสดงความยินดีกับอกาธาอย่างไม่ขาดสายจนถึงตอนเย็นๆอกาธาจึงสามารปิดตัวกลับบ้านได้
อกาธาเข้าบ้านของตนที่เป็นบ้านเล็กๆขนาดสองชั้นไปอย่างเปี่ยมความสุข
อกาธาไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนที่เขาหลับ
ไม่มีใครรู้เลยว่าในคืนนั้น บาทหลวงอเล็กซ่าพ่อของอกาธา
จะพยายามฆ่าลูกของตนเอง