ค่ำคืนล่วงเลยไปแล้ว ชายหนุ่มผมขาวนั่งอยู่คนเดียวข้างหน้าต่างที่มองออกไปเห็นชายทะเล ลมบกพัดออกจากฝั่ง แต่จู่ๆก็มีลมกรรโชกวูบหนึ่งพัดกระแทกเข้ามาที่ซุ้มโค้งของช่องหน้าต่างจนถ้วยชาสั่นกึกๆ
"ผมบอกแล้วว่าอย่าแวะมากลางดึกนะ ผมไม่ต้อนรับ" เทพบุตรแห่งปีกเอ่ยพร้อมกับยักยิ้มที่มุมปาก
"แล้วไอ้ที่เทชา ตั้งโต๊ะอาหารรอนี่คืออะไร บวงสรวงเทวดาเรอะ"
"ขอบคุณผมหน่อยสิที่ทำให้นายคืนดีได้น่ะ"
"ขอบคุณ" ไนท์เอ่ยแล้วยกแก้วกระดกหนึ่งที ก่อนจะผุดลุกขึ้นเตรียมตัวกลับ
"นายจะกลับเลย? แสดงเรื่องของเราก็จบลงตรงนี้ใช่มั้ย เพื่อนยาก"
"เรื่องของเราอะไร อย่าพูดให้เข้าใจผิดสิ ระหว่างเราเคยมีอะไรที่ไหน" ไนท์ค้อนเพื่อนที่ชอบทำให้คนของเขาเข้าใจผิด ทำให้แต่ละทีที่ไปจีบนั้นยากเย็นยิ่งกว่าเข็นครกออกจากหลุมดำอีก
"ก็เรื่องดีๆที่เราเคยมีด้วยกันไง ต่อจากนี้มันจะเป็นแค่อากาศธาตุสินะ"
"…" ดวงตาสีดำมองเพื่อนที่ยกถ้วยชาขึ้นจิบ
"ผมรู้ว่านายทำทั้งหมดไปเพื่ออะไร ไม่ใช่แค่เพื่อแก้แค้นให้ผม เวอร์ชูว"
"ใช่ การแก้แค้นให้นายจบแล้ว ที่เหลือคือเส้นทางที่ผมเลือกเอง ไนท์ ถ้ามันจะไปขวางหรือปะทะกัน ก็ถือเสียว่าเรื่องดีๆทั้งหมดระหว่างเราไม่เคยมี ตกลงนะ..."
ทั้งหมดคือเป้าหมายของพวกเขามาตั้งแต่แรก ความทะเยอทะยานของอัลฟ่าฝึกหัดสองคนที่จะไปให้ถึงจุดสูงสุดของอัลฟ่าแนวหน้า เมื่อหนึ่งคนถอนตัวออกไป อีกหนึ่งคนที่เหลือจึงต้องเลือก และเวอร์ชูวก็ได้เลือกแล้ว
"จะมีอะไรอยู่ตรงนั้นเรอะเวอร์? เมื่อนายได้เป็นที่หนึ่งในจักรวาล..."
"ไม่รู้สิ ตราบเท่าที่ยังไปไม่ถึงผมก็บอกไม่ได้หรอก อาจจะมีคนเปิดมิติที่เจ็ดจากอีกจักรวาลเข้ามา แล้วบอกพวกเราให้เลิกยึดติดกับกฎห่วยๆของจักรวาลห่วยๆก็ได้นะ?"
พวกเขาหัวเราะ
หัวเราะด้วยกัน และดื่มกินด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย
"สรุปว่านายจะไปตามทางของนาย ส่วนผมก็ไปตามทางของผมสินะ"
"ผมไม่คิดจะช่วยนายหรอก ธุรกิจ ก็คือเรื่องของธุรกิจ มิตรภาพก็คือมิตรภาพ ถ้าผมเอาสองอย่างนี้มารวมกันไม่แยกแยะ ผมก็คุมปีกสันติภาพไม่ได้หรอก เพื่อนยาก"
เวอร์ชูวตอบตรงๆ "และอีกอย่างหนึ่งคือ ผมคงไม่มีวันเข้าใจว่าทำไมนายถึงต้องเห็นใจพวกโอเมก้าด้วย ดูเหมือนว่าพระเจ้าและโชคชะตาจะเห็นว่าผมยังไม่มีความจำเป็นต้องเข้าใจล่ะมั้ง"
"ผมเข้าใจตรงจุดนั้นดี งั้นก็โชคดีนะเวอร์" ไนท์พยักหน้า
"ยอมแพ้แล้วเรอะ? นึกว่านายจะพยายามเปลี่ยนใจผมเสียอีกนะ?"
"บางทีอาจจะไม่ใช่ผมก็ได้ที่จะเปลี่ยนใจนาย นายอาจจะมีโชคชะตาของนายเอง แต่ผมก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้นายมานั่งคุยเล่น กินลมชมทะเลกับผมนะ ถ้านายเหงาก็แวะมาละกัน แต่ก็ช่วยมาให้ถูกเวลาด้วย ดูทิศทางสักนิดหนึ่ง" ไนท์ว่าพลางขยิบตาให้
อ่า เพื่อนยากกำลังเตือนเขาว่าอย่าโผล่ไปเป็นก้าง เวลาเข้าด้ายเข้าเข็มใช่มั้ย
เวอร์ชูวส่ายหน้า กลั้วหัวเราะในลำคอ แล้วชี้นิ้วใส่หน้าเพื่อนคนแรกและคนเดียวของเขา
"ผมไม่แปลกใจเลยที่จักรพรรดิอาเบลจะบอกว่านายมันหลายใจ ยั่วคนไปทั่ว"
"เฮ้ๆ นี่ผมอุตสาห์จริงใจ ทำไมวิจารณ์กันเสียหายแบบนี้ล่ะ"
แล้วพวกเขาทั้งสองก็นั่งลงดื่มกินกัน และพูดคุยกันถึงวันเก่าๆเหมือนคนแก่
เวอร์จิบชาช้าๆ พลางสงสัยว่าที่ตรงนี้มีอะไรที่เขาไม่พอใจกันนะ มีทั้งเพื่อนรู้ใจที่สุด อาหารและสิ่งอำนายความสะดวกที่สบายที่สุดอยู่ตรงนี้แล้ว
แล้วทำไมเขาถึงยังอยากไปให้ถึงเป้าหมายที่ดูลางเลือน และห่างไกล ทำไมเขาอยากไขว่คว้า ถึงกับต้องผลักดันตัวเองให้ออกเดินทางหลายหมื่นปีแสงเพื่อครอบครองปีกสันติภาพที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเขาเลย ไม่มีมิตรภาพ มีเพียงผลประโยชน์และความหวาดกลัวร้อยรัดพวกเขาให้เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน
เทพบุตรสงสัย แต่จะให้ถอดใจกลางทาง เขาไม่มีวันตัดใจได้...บางทีเขาคงต้องไปให้ถึงก่อน แล้วจึงจะรู้ว่าปลายทางที่เขาพูดกันว่าว่างเปล่านั้นมันเป็นอย่างไร และตอนนั้นบางทีเขาอาจจะคิดถึงช่วงเวลาแบบนี้อีกครั้งก็ได้ล่ะมั้ง ช่วงเวลาที่ดื่มกินอย่างไม่ต้องกังวลสิ่งใดกับคนรู้ใจ
ไว้ให้ถึงตอนนั้น
"แล้วผมจะแวะไปหานะ..."
ไนท์