[In the castle]
[ในปราสาท]
Wevil: Peony, Iris is sick. Could you come and take a look?
วีวิล: พีโอนี่ ไอริสป่วยน่ะ ช่วยมาดูเธอหน่อยได้ไหม?
Peony: How are you feeling, Iris? What could possibly...
พีโอนี่: เธอรู้สึกยังไงบ้าง ไอริส? อะไรกันที่ทำให้…
Iris: I don't know. I was feeling OK until....
ไอริส: ไม่รู้สึก ฉันรู้สึกปกติดีจนกระทั่ง….
Wevil: I have given her the best of our trent's herb, 2 white potions and a panacea we bought yesterday, but she's still sick.
วีวิล: ฉันให้เธอทานสมุนไพรของเทรนต์ที่ดีที่สุด น้ำยาขาว 2 ขวด แล้วก็ยาสารพัดโรคที่เราซื้อมาเมื่อวานนี้ แต่เธอก็ยังไม่ดีขึ้นเลย
Peony, shouting: Blue birds over there, come here. Go get Sola and Ruby here, top priority.
พีโอนี่ตะโกน: นกสีฟ้าตรงนั้นน่ะ มานี่ซิ ไปตามโซล่ากับรูบี้มาที่นี่ ด่วนที่สุด
Violet: Snowwhite, you were born from angel's trumpet, right? Isn't it poisonous?
ไวโอเล็ต: สโนว์ไวท์ เธอเกิดมาจากต้นแตรนางฟ้าใช่ไหม? มันมีพิษไม่ใช่เหรอ?
Snowwhite: I'm not sure. Arh, that's why a lot of cockroaches were dying around me for no reason.
สโนว์ไวท์: ฉันไม่แน่ใจค่ะ อ้อ…ฉันก็สงสัยว่าทำไมแมลงสาบมากมายถึงตายอยู่รอบๆตัวฉันโดยไม่มีเหตุผล
Peony: Snowwhite, please go outside and stay afar from everyone for now.
พีโอนี่: สโนว์ไวท์ ตอนนี้ช่วยออกไปข้างนอกแล้วอยู่ห่างจากทุกคนก่อนนะ
Snowwhite nods.
สโนว์ไวท์พยักหน้า
Peony: As a tree, the poison is quite lethal to human in large dose, but I never thought she could hurt a maiden, who is far tougher than human. It can't even hurt our lord who was also staying near her for quite some time.
พีโอนี่: เมื่อเป็นต้นไม้ พิษของมันจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์ถ้าได้รับเข้าไปมาก แต่ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะทำร้ายสาวดอกไม้ได้ เพราะพวกเราแข็งแกร่งกว่ามนุษย์มากมายนัก ท่านลอร์ดยังไม่เห็นเป็นไรเลยทั้งๆที่อยู่กับเธอตั้งนาน
Violet: It's possible that her poison is much stronger after she is converted into a maiden by yggdrasil's magic, and Iris could coincidentally be vulnerable to this specific type of poison.
ไวโอเล็ต: เป็นไปได้ที่พิษของเธอจะแรงขึ้นหลังจากที่เธอถูกเปลี่ยนให้เป็นสาวดอกไม้โดยมนต์ของอิกดราซิล แล้วไอริสก็บังเอิญแพ้พิษชนิดนี้พอดี
Iris: Don't worry about me. I'm very strong. [cough...cough] I won't die like a cockroach [couch...couch]
ไอริส: อย่าห่วงฉันเลยค่ะ ฉันแข็งแรงมาก [แค่ก…แค่ก] ฉันไม่ตายเหมือนแมลงสาบหรอกค่ะ [แค่ก…แค่ก]
Lord: It doesn't sound reassuring if you say that while couching.
ลอร์ด: ฟังดูไม่น่าไว้ใจเลยเวลาเธอพูดพร้อมกับไอไปด้วย
Iris: If I die, bury my corpse in your bedroom. At least my soul can stay with you for a while. [couch...couch]
ไอริส: ถ้าฉันตาย ฝังศพของฉันไว้ในห้องนอนนะคะ อย่างน้อยวิญญาณของฉันก็จะได้อยู่กับท่านอีกสักพัก [แค่ก…แค่ก]
Lord: Stop saying that. It's not funny. But yes, that's the least I could do for you.
ลอร์ด: หยุดพูดแบบนั้นได้แล้ว มันไม่ตลกเลยนะ แต่ก็ได้ อย่างน้อยฉันก็น่าจะทำให้เธอได้
Iris: Never blame Snowwhite. It's all my fault. Could you guys go out and let me die in peace?
ไอริส: อย่าว่าสโนว์ไวท์เลยนะคะ เป็นความผิดฉันเองคนเดียว พวกท่านช่วยออกไปแล้วปล่อยให้ฉันตายอย่างสงบได้ไหมคะ?
Lord: .....
Violet: Stop joking about it if you are. Your face is so green.
ไวโอเล็ต: หยุดล้อเล่นได้แล้วถ้าเธอกำลังทำอยู่ หน้าของเธอเขียวไปหมดแล้ว
Iris: [couch...couch] my lord, could you do something nice to me for the last time....the human way.
ไอริส: [แค่ก…แค่ก] ท่านลอร์ด ช่วยทำอะไรดีๆให้ฉันเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมคะ….เอาแบบมนุษย์ทำกันนะ
Lord: ....
Isabelle, walking in: Don't worry. She will get well soon.
อิซาเบลเดินเข้ามา: อย่าเป็นห่วงเลยค่ะ เธอจะหายดีในเร็วๆนี้
Isabelle walks out.
อิซาเบลเดินออกไป
Violet: Is that all? But she is an oracle, right? Should we believe her and do nothing?
ไวโอเล็ต: แค่นั้นเหรอ? แต่เธอเป็นเทพพยากรณ์ใช่ไหม? เราควรเชื่อเธอแล้วไม่ต้องทำอะไรเลยหรือเปล่าคะ?
Peony: I just know today that she is an oracle. I never see her use any oracle power before.
พีโอนี่: ฉันก็เพิ่งรู้วันนี้ว่าเธอเป็นเทพพยากรณ์ ฉันไม่เคยเห็นเธอใช้พลังทำนายนี่มาก่อนเลย
Lord: Let us go outside and let Iris rest here. Wevil, you stay with her.
ลอร์ด: พวกเราออกไปข้างนอกแล้วให้ไอริสพักที่นี่เถอะ วีวิลอยู่กับไอริสนะ
Peony: Don't make too much noise, Wevil. Let her sleep.
พีโอนี่: อย่าส่งเสียงดังล่ะ วีวิล ให้เธอนอนพัก
Wevil: You are right, Iris. My nectar is one of the lowest grade, but please wake up and drink it. Iris...Iris.
วีวิล: เธอพูดถูก ไอริส น้ำหวานของฉันมันเกรดห่วยสุด แต่ตื่นขึ้นมากินมันหน่อยเถอะนะ ไอริส….ไอริส
[Trent village nearby]
[หมู่บ้านเทรนต์ใกล้ๆ]
Violet: Is it possible that we can find antidote around here, near the source of the poison itself?
ไวโอเล็ต: เป็นไปได้ไหมคะว่าเราจะหายาถอนพิษได้แถวนี้ ใกล้ๆกับแหล่งของพิษนั้น?
Peony: Frankly I don't know. But your theory sounds good. Plus, we don't have anything better to do while waiting for our healers.
พีโอนี่: บอกตามตรงฉันก็ไม่รู้ แต่ทฤษฎีของเธอฟังดูดีนะ แล้วเราก็ไม่มีอะไรดีกว่านั้นจะทำด้วยระหว่างที่รอผู้รักษาของเรา
Lord: Let ask those trents in the village.
ลอร์ด: ไปถามพวกเทรนต์ในหมู่บ้านกันเถอะ
Violet: Do you know any plant around here that can cure poison of Angel's trumpet?
ไวโอเล็ต: พวกนายรู้จักพืชแถวนี้ที่รักษาพิษของแตรนางฟ้ารึเปล่า?
Oak tree: Angel's trumpet? What is it? Musical instrument? But if you want an antidote, there are some blue herbs growing on the top of the mountain over there.
ต้นโอ๊ก: แตรนางฟ้า? คืออะไรน่ะ? เครื่องดนตรีเรอะ? แต่ถ้าอยากได้ยาถอนพิษ มีสมุนไพรสีฟ้าขึ้นอยู่บนยอดเขาตรงโน้นแน่ะ
Pine tree: But be careful. There will be a test.
ต้นสน: แต่ระวังนะ จะมีการทดสอบ
Violet: What kind of test?
ไวโอเล็ต: การทดสอบประเภทไหนคะ?
Pine tree has gone into sleep mode and does not wake up.
ต้นสนนอนหลับไปแล้วไม่ยอมตื่นขึ้นมาอีก
Lord: Hey...hey...Stop being so mysterious.
ลอร์ด: เฮ้ๆ หยุดทำตัวลึกลับได้แล้ว
Peony: Doesn't matter. We will go there anyway.
พีโอนี่: ไม่สำคัญหรอกค่ะ ยังไงเราก็จะไปที่นั่น
Cotton, running in: I go too. I want to help.
คัตตอนวิ่งเข้ามา: ฉันไปด้วย ฉันอยากช่วยค่ะ
Peony: Stay in the back line and protect the lord. Let us handle the fight, if there is any.
พีโอนี่: อยู่แนวหลังแล้วคุ้มกันท่านลอร์ดนะ ให้พวกเราสู้เอง ถ้าจำเป็นต้องสู้
[Treacherous path]
[เส้นทางอันตราย]
Violet: This path is too narrow. The left side is a mountain wall. The right side is a deep chasm.
ไวโอเล็ต: ทางเดินนี้แคบมากเลยค่ะ ทางด้านซ้ายเป็นกำแพงภูเขา ส่วนด้านขวาเป็นเหวลึก
Cotton: And the wind is strong too. I am almost blown away.
คัตตอน: แล้วลมก็ยังแรงอีกด้วย ฉันเกือบจะปลิวอยู่แล้ว
Peony: Keep walking. We are almost there.
พีโอนี่: เดินไปเรื่อยๆ เกือบถึงแล้ว
Violet: In retrospect, should we leave our lord at the castle, since he is usele ... uh... I mean, we should care for his safety first.
ไวโอเล็ต: คิดๆดูแล้ว เราควรจะทิ้งท่านลอร์ดไว้ที่ปราสาทนะคะ เพราะเขาไร้ประ…เอ่อ…ฉันหมายถึงเราควรจะคิดถึงความปลอดภัยของเขาเป็นอันดับแรก
Lord: Too late, Violet. I know what you were about to say!
ลอร์ด: สายไปแล้ว ไวโอเล็ต ผมรู้นะว่าเธอจะพูดอะไร!
Cotton: What's that, a green dragon?
คัตตอน: นั่นอะไรน่ะ มังกรเขียว?
The green dragon roars menacingly.
มังกรเขียวคำรามอย่างดุร้าย
Violet: Is this the test the trent was talking about?
ไวโอเล็ต: นี่คือการทดสอบที่เทรนต์ตัวนั้นบอกรึเปล่าคะ?
Peony: Cotton and my lord, hurry back to the castle right now. Prepare to fight, Violet.
พีโอนี่: คัตตอนกับท่านลอร์ด รีบกลับไปปราสาทเดี๋ยวนี้เลย เตรียมสู้ ไวโอเล็ต
The dragon roars again and approaches them.
มังกรคำรามอีกครั้งแล้วเคลื่อนใกล้เข้ามา
Violet: [Purple Gale]
ไวโอเล็ต: [พายุสีม่วง]
Dragon: Hmm...these petals don't hurt much but they are blocking my sight.
มังกร: อืม… กลีบดอกไม้พวกนี้มันไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ แต่มันบังสายตาฉัน
Peony: [Rosario Impale]
พีโอนี่: [หนามกุหลาบพันเล่ม]
In the blink of an eye, thousands of piercing sword thrust into the dragon's left wing, tearing a part of its wing into pieces.
พริบตาเดียว พลังดาบหลายพันเล่มก็แทงไปที่ปีกซ้ายของมังกร ปีกบางส่วนขาดกระจุยเป็นชิ้นเล็กๆ
Dragon: That's unexpectedly powerful.
มังกร: แรงอย่างไม่น่าเชื่อ
Peony: Take another [Rosar.....
พีโอนี่: เอาไปอีก [หนาม….
Dragon: [Bursting Tempest]
มังกร: [พายุสายลม]
While the violent storm is blowing everyone away, the dragon flies away in the mid of the chaos.
ระหว่างที่พายุอันรุนแรงพัดทุกคนกระเด็นไปนั้น มังกรก็บินจากไปท่ามกลางความวุ่นวาย
[Not far away from where they were fighting]
[ไม่ไกลนักจากบริเวณที่ต่อสู้กัน]
Lord: Cotton, get up. Climb my body up.
ลอร์ด: คัตตอน ขึ้นมา ไต่ตัวฉันขึ้นมา
Cotton: Release my hand, or you will fall down too.
คัตตอน: ปล่อยมือฉันนะคะ ไม่อย่างนั้นท่านจะตกลงไปด้วย
Lord: No, I can't let you fall into the chasm.
ลอร์ด: ไม่นะ ฉันปล่อยให้เธอตกลงไปในเหวไม่ได้
Cotton frees her hand from the lord's grasp and falls down below.
คัตตอนสลัดมือของเธอออกจากมือของท่านลอร์ดแล้วร่วงหล่นลงไปในเหวด้านล่าง
Lord: Noooo....Cotton.....It's my fault. If only I was stronger.
ลอร์ด: ไม่นะ….คัตตอน….ความผิดผมเอง ถ้าผมแข็งแรงกว่านี้นะ
[10 seconds later]
[10 วินาทีผ่านไป]
Peony pulls the lord back onto the path.
พีโอนี่ดึงท่านลอร์ดกลับขึ้นมาบนเส้นทาง
Violet: Where is Cotton, my lord?
ไวโอเล็ต: คัตตอนไปไหนน่ะท่านลอร์ด?
Lord: She fell down below. She didn't want to endanger my life.
ลอร์ด: เธอตกลงไปข้างล่างแล้ว เธอไม่อยากทำให้ชีวิตผมเป็นอันตราย
Peony: If Wevil falls down from this height, she surely dies. I don't know about Cotton. Violet, you try to find a way down there while I get the blue herb. My lord, walk with me.
พีโอนี่: ถ้าวีวิลตกลงไปจากความสูงระดับนี้ เธอตายแน่นอน แต่คัตตอนฉันไม่แน่ใจ ไวโอเล็ต เธอหาทางลงไปข้างล่าง ฉันจะไปเอาสมุนไพรสีฟ้า ท่านลอร์ดตามฉันมานะคะ
[Mountain top]
[ยอดเขา]
Peony: That's our blue herb. But there seem to be various kinds of poisonous plants surrounding it.
พีโอนี่: นั่นไงสมุนไพรสีฟ้าของเรา แต่ดูเหมือนจะมีพืชมีพิษหลายชนิดขึ้นล้อมรอบอยู่นะคะ
Snowwhite, walking in: Let me get it. My resistance to poison is very high. This is the least I can do.
สโนว์ไวท์เดินเข้ามา: ฉันไปเอาเองค่ะ ความต้านทานพิษของฉันสูงมาก อย่างน้อยฉันก็น่าจะทำสิ่งนี้
Peony: Thank you Snowwhite, but please don't touch it, or your poison might taint the antidote.
พีโอนี่: ขอบใจมากสโนว์ไวท์ แต่อย่าไปสัมผัสมันนะ ไม่อย่างนั้นพิษของเธออาจจะเปื้อนยาถอนพิษก็ได้
Snowwhite: Oops, sorry. You're right.
สโนว์ไวท์: อุ๊ย ขอโทษค่ะ จริงๆด้วย
Peony: [Petal Storm]
พีโอนี่: [พายุดอกไม้]
All poisonous plants are shredded into pieces and blown away by the wind.
พืชมีพิษทั้งหมดถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วปลิวไปตามกระแสลม
Peony: All's done. Let go back.
พีโอนี่: เสร็จแล้วค่ะ กลับกันเถอะ
[Wind castle's gate]
[ประตูหน้าปราสาทลม]
Violet: I can't find Cotton anywhere, Peony.
ไวโอเล็ต: ฉันหาคัตตอนไม่เจอเลย พีโอนี่
Peony: Let try this blue herb on Iris first.
พีโอนี่: เราลองสมุนไพรสีฟ้านี่กับไอริสก่อนดีกว่า
Violet: Too bad. She is too young to die.
ไวโอเล็ต: แย่จังเลย เธอยังเด็กเกินไปที่จะตาย
[In the main hall]
[ห้องโถงหลัก]
Iris: Catch! We are lucky I brought a few fluffy.
ไอริส: รับนะ! โชคดีจังที่ฉันเอาฟลัฟฟี่มาด้วย
Ruby: Catch it, Wevil
รูบี้: รับสิ วีวิล
Fluffy: Whew...
ฟลัฟฟี่: วิ้ว….
Ruby: Wevil, you made us lost again.
รูบี้: วีวิล เธอทำเราแพ้อีกแล้วนะ
Wevil: Surprised? Your arms are 10 times longer than mine!
วีวิล: แปลกใจเหรอ? ก็แขนเธอยาวกว่าฉัน 10 เท่านี่!
Sola: We need to find a better way to play this 'throwing fluffy game' with Wevil.
โซล่า: เราต้องหาวิธีที่ดีกว่านี้ในการเล่น 'เกมโยนฟลัฟฟี่' กับวีวิลซะแล้ว
Violet: You girls are having a lot of fun, right? We were fighting a dragon, but never mind.
ไวโอเล็ต: พวกเธอกำลังสนุกกันมากเลยใช่ไหม? เราเพิ่งไปสู้กับมังกรมา แต่ช่างมันเถอะ
Peony: Sola, was it you or Ruby who healed her?
พีโอนี่: โซล่า เธอหรือรูบี้น่ะที่รักษาไอริส?
Sola: Not me or Ruby. They were already playing fluffy when I walked in here.
โซล่า: ไม่ใช่ฉันหรือรูบี้หรอก พวกนี้เล่นฟลัฟฟี่กันอยู่แล้วตอนที่ฉันเดินเข้ามาที่นี่
Iris: Our oracle is right all along. I got better shortly on my own after you girls were out.
ไอริส: เทพพยากรณ์ของเราพูดถูกทุกอย่าง ฉันอาการดีขึ้นเองหลังจากที่พวกเธอออกไปไม่นาน
Peony: I will plant this blue herb in a pot, as a memento to our friendship.
พีโอนี่: ฉันจะปลูกสมุนไพรสีฟ้านี้ไว้ในกระถาง เพื่อระลึกถึงมิตรภาพของเรา
Iris: You girls fought a dragon to get this blue herb? There are loads of them in the backyard.
ไอริส: พวกเธอสู้กับมังกรมาเพื่อสมุนไพรสีฟ้าอันนี้น่ะเหรอ? ข้างหลังปราสาทมีขึ้นอยู่เต็มเลย
Peony: ....
Cotton, running in: Hello, everyone OK? Happy ending, right?
คัตตอนวิ่งเข้ามา: ฮัลโหลทุกคนปลอดภัยไหม? จบแบบมีความสุขใช่ไหมล่ะ?
Lord: How come you walk in unscathed?
ลอร์ด: ทำไมเธอเดินเข้ามาแบบไม่มีบาดแผลเลย?
Cotton: Eh? I don't really understand the question.
คัตตอน: เอ๋? ฉันไม่ค่อยจะเข้าใจคำถามเลยค่ะ
Isabelle: She can hover along with the wind, my lord.
อิซาเบล: เธอลอยไปตามกระแสลมได้น่ะค่ะ ท่านลอร์ด
Lord: Why don't you warn us about the dragon?
ลอร์ด: ทำไมเธอถึงไม่เตือนเราเรื่องมังกร?
Isabelle: Walk with me to the garden. I will answer your question, and explain about oracle power in general.
อิซาเบล: เดินไปที่สวนกับฉันสิคะ ฉันจะตอบคำถามของท่าน แล้วก็อธิบายเกี่ยวกับพลังของเทพพยากรณ์แบบกว้างๆด้วย
[Somewhere far away, very high up in the sky]
[ที่แห่งหนึ่งไกลออกไป สูงเสียดฟ้า]
A girl wearing white dress with the slightest shade of pink is standing near a device with very big lens.
ผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดสีขาวที่มีสีอมชมพูแฝงอยู่เล็กน้อยกำลังยืนอยู่ใกล้กับอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่มีเลนส์ขนาดใหญ่
Overseer: Emerald, do not intervene.
โอเวอร์ซีเออร์: เอเมอรัล อย่ายุ่ง
Emerald: They attacked me first, master. All I did is roaring.....uh.....menacingly.
เอเมอรัล: พวกเขาโจมตีฉันก่อนค่ะ เจ้านาย ฉันก็แค่คำราม …เอ่อ….อย่างดุร้าย
Overseer: .....
Emerald: Ok...ok...I just want to have some fun. I won't do it again. I promise, master. These maidens are very powerful. Look at my wing.
เอเมอรัล: ได้ๆ ฉันก็แค่อยากสนุกนิดหน่อยเท่านั้นเอง ฉันจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ สัญญาเลยเจ้านาย สาวดอกไม้พวกนี้เก่งกาจจริงๆ ดูปีกฉันสิคะ
[In the garden]
[ในสวน]
Isabelle: Basically we are glorified fortune tellers. The same way wizards are glorified mages. Oracles are varied in how far in the future they can see. Some can see far more than a month, some just a few hours. Some are good at seeing the past, some the present, some the future. Some can see all of them.
อิซาเบล: จะว่าไปแล้วพวกเราก็แค่เป็นหมอดูที่เก่งขึ้นมาหน่อยเท่านั้นเอง เหมือนกับจอมเวทย์กับนักเวทย์น่ะค่ะ เทพพยากรณ์จะแตกต่างกันไปว่าจะมองไปในอนาคตได้ไกลแค่ไหน บางคนก็เห็นไกลกว่าหนึ่งเดือน บางคนก็แค่ไม่กี่ชั่วโมง บางคนก็เก่งด้านการมองอดีต บางคนก็ปัจจุบัน บางคนก็อนาคต บางคนก็มองเห็นทุกอย่างเลย
Lord: Ordinary human can see only the present around him.
ลอร์ด: มนุษย์ปกติมองเห็นได้แค่ปัจจุบันรอบๆตัวเท่านั้นเอง
Isabelle: And how clearly can they see? Do they see the complete details of the events, or just a blurred vision? And they certainly can't see everything that happen in the world at the same time. Some can see only the future of the person in front of them. Some have a good hunch and can see anything bad that might be happening to any member of their family or the whole town.
อิซาเบล: แล้วก็ตรงที่ว่าเห็นชัดแค่ไหน? พวกเขาเห็นรายละเอียดเหตุการณ์อย่างครบถ้วน หรือแค่ภาพนิมิตลางๆ? แน่นอนว่าไม่มีใครเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกด้วยการมองเพียงครั้งเดียวหรอกค่ะ บางคนก็เห็นเฉพาะอนาคตของผู้ที่อยู่ข้างหน้าตัวเองเท่านั้น บางคนก็ลางสังหรณ์ดีและสามารถมองเห็นเรื่องร้ายๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับสมาชิกในครอบครัวหรือเมืองทั้งเมืองเลยก็ได้
Lord: Priscilla seems to be able see us even we are on another side of the continent.
ลอร์ด: พริสซิลล่าดูเหมือนจะเห็นเราถึงแม้เราจะอยู่ตรงข้ามฝั่งทวีปเลยก็ตาม
Isabelle: And look at this coin. Do you think I will drop it on the floor? If you say no, I will drop. If you say yes, I won't drop. People intention can often change on their whim, making the prediction much less accurate. Some intentions are very strong, though, and can be predicted more accurately.
อิซาเบล: แล้วดูเหรียญอันนี้สิคะ ท่านคิดว่าฉันจะทิ้งมันลงบนพื้นหรือเปล่า? ถ้าท่านตอบว่าไม่ ฉันจะทิ้ง แต่ถ้าท่านตอบว่าใช่ ฉันจะไม่ทิ้ง เจตนาของคนนั้นมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามใจของคนผู้นั้น ทำให้การทำนายขาดความแม่นยำลงไปมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเจตนาบางอย่างที่แน่วแน่ เราก็สามารถพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำ
Lord: I think I get it. There could be many things we planned to do since a few weeks ago and will try to do it no matter what happen.
ลอร์ด: ผมคิดว่าเข้าใจแล้ว มีหลายอย่างที่เราวางแผนไว้ว่าจะทำตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อน แล้วเราก็จะพยายามทำมันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
Isabelle: To answer your question earlier. I didn't see that dragon coming. It is a very powerful entity and therefore it's harder to predict their intention. More importantly, I'm the weakest among those who are called Oracle, and much weaker compared to Priscilla. However, I might be a better oracle than her as time passed, or not, I don't know.
อิซาเบล: ตอนนี้ฉันจะตอบคำถามของท่าน ค่ะ ฉันไม่เห็นมังกรตัวนั้น มันเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก ดังนั้นฉันจึงทำนายเจตนาของมันได้ยากกว่าปกติ และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ฉันมีความสามารถน้อยที่สุดในบรรดาผู้ที่ถูกเรียกว่าเทพพยากรณ์ค่ะ ฉันพลังน้อยกว่าพริสซิลล่ามากมาย อย่างไรก็ตาม ฉันอาจจะเก่งขึ้นก็ได้เมื่อเวลาผ่านไป หรืออาจจะไม่ก็ได้ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ
Lord: Thank you for your explanation, Isabelle.
ลอร์ด: ขอบใจเธอมากที่อธิบายให้ฟัง อิซาเบล
Isabelle: One thing to remember. We can't see everything and we can't see it all the time, at least for me. But anyway, it's better than not seeing anything at all.
อิซาเบล: มีเรื่องหนึ่งที่ควรจำไว้ พวกเรามองไม่เห็นทุกอย่าง และเราก็มองไม่เห็นตลอดเวลา อย่างน้อยก็ตัวฉันนะคะ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังดีกว่ามองไม่เห็นอะไรเลยใช่ไหมล่ะคะ
Lord: I see you close your eyes all the time. You do that to enhance your power?
ลอร์ด: ผมเห็นเธอหลับตาอยู่ตลอดเวลาเลย เธอทำแบบนั้นเพื่อเพิ่มพลังใช่ไหม?
Isabelle: Yes, exactly. Don't worry I can still see you through my mind, and I can open my eyes anytime, but in that case I will see less of the future.
Lord: Do you have any advice for my life in general?
อิซาเบล: ค่ะถูกต้องเลย ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะฉันยังมองเห็นท่านด้วยจิตได้ แล้วฉันก็จะลืมตาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าทำอย่างน้อยฉันจะมองเห็นอนาคตน้อยลง
ลอร์ด: เธอมีคำแนะนำทั่วๆไปเกี่ยวกับชีวิตฉันไหม?
Isabelle: My advice can change your future itself. If I tell you what your future is, that future might not happen because of your reaction to my prediction. Therefore it's a dilemma. All I can say for now is enjoy your life while you still can.
อิซาเบล: คำแนะนำของฉันสามารถเปลี่ยนอนาคตได้ ถ้าฉันบอกไปว่าอนาคตของท่านคืออะไร อนาคตนั้นก็อาจจะเปลี่ยนไปเพราะคำทำนายของฉัน ดังนั้น มันจึงไม่มีทางออก สิ่งที่ฉันพูดได้อย่างเดียวตอนนี้ก็คือ สนุกกับชีวิตนะคะตอนที่ท่านยังทำได้
Lord: That's a really foreboding piece of advice, isn't it.
ลอร์ด: คำทำนายของเธอฟังดูเป็นลางไม่ดีเลยใช่ไหมล่ะ
Isabelle: Come on. Everyone dies in the end. Only the path to that last minute is what important. Enjoy your life, my lord.
อิซาเบล: อย่ากลุ้มสิคะ ในที่สุดแล้วทุกคนก็ต้องตาย มีเพียงเส้นทางไปสู่นาทีสุดท้ายเท่านั้นที่สำคัญค่ะ มีความสุขกับชีวิตนะคะ ท่านลอร์ด
Lord: And worrying too much won't improve the situation, am I right?
ลอร์ด: แล้วกังวลมากเกินไปก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ใช่ไหมล่ะ?
Isabelle: Yes.
อิซาเบล: ค่ะ
Lord: About Snowwhite's poison, can anyone get sick to it again?
ลอร์ด: แล้วสโนว์ไวท์ล่ะ จะมีใครป่วยเพราะเธออีกไหม?
Isabelle: As far as I can see, no. But as I said, the oracle powers are limited. Then, better keep her away from everyone else.
อิซาเบล: เท่าที่ฉันเห็นไม่มีค่ะ แต่เหมือนกับที่ฉันบอก พลังของเทพพยากรณ์นั้นมีจำกัด ดังนั้นเก็บเธอให้ห่างจากทุกคนไว้ดีกว่าค่ะ
Lord: I will plant her in the far corner of the balcony.
ลอร์ด: ผมจะปลูกเธอไว้ที่ปลายหัวมุมระเบียง
Isabelle: There is one thing I can see very clearly now. Something will happen tomorrow's morning. But don't worry, I will be there with you.
อิซาเบล: มีสิ่งเดียวที่ฉันเห็นชัดมากในตอนนี้ จะมีบางอย่างเกิดขึ้นตอนเช้าวันพรุ่งนี้ค่ะ แต่อย่ากังวลไปเลย ฉันจะอยู่ที่นั่นด้วยค่ะ
Lord: What is it, Isabelle?
ลอร์ด: มันคืออะไรเหรอ อิซาเบล?
Isabelle: I can't tell you now or it will certainly not happen.
อิซาเบล: ตอนนี้ฉันบอกท่านไม่ได้ค่ะ ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
Lord: Hmm....
ลอร์ด: อืม….
Isabelle: It's almost dinner time, my lord. I think you should stay at this castle tonight for a change.
อิซาเบล: เกือบได้เวลาอาหารค่ำแล้วค่ะท่านลอร์ด ฉันคิดว่าท่านน่าจะค้างคืนที่ปราสาทหลังนี้เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศนะคะ
[Trent village nearby]
[หมู่บ้านเทรนต์ใกล้ๆ]
Oak tree: Oh, you're awake. What test were you talking about?
ต้นโอ๊ก: อ้อนายตื่นแล้วเหรอ ตอนนั้นพูดถึงการทดสอบอะไรน่ะ?
Pine tree: The dangerous path.
ต้นสน: เส้นทางอันตรายไง
Oak tree: Oh, yes, that treacherous path with strong wind.
ต้นโอ๊ก: อ้อ ใช่สิ เส้นทางอันตรายที่ลมพัดแรง
[Dinner table]
[ที่โต๊ะอาหาร]
Ruby: The food here is delicious too, sis. It's different from ours.
รูบี้: อาหารที่นี่ก็อร่อยนะคะพี่ มันแตกต่างไปจากของเรา
Iris: Try this giant blueberry. It's awesome.
ไอริส: ลองทานบลูเบอรี่ยักษ์นี่สิ เยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ
Isabelle: I will have some blueberry trents walk to your castle.
อิซาเบล: ฉันจะให้บลูเบอรี่เทรนต์สักกลุ่มเดินไปที่ปราสาทของท่านค่ะ
Sola: Anyone want my sunflower seeds? No? No one at all?
โซล่า: มีใครอยากทานเมล็ดทานตะวันของฉันไหม? ไม่มีเหรอ? ไม่มีซักคนเลย?
Lord: Oh, where have you been, Sola?
ลอร์ด: เธอไปไหนมาน่ะ โซล่า?
Sola: Uh.. I enjoy...uh.. I mean I have some business in radish restaurant..uh..I mean radish market.
โซล่า: เอ่อ...ฉันสนุกกับ…เอ่อ…ฉันมีธุระในร้านอาหาร…เอ๊ย…ตลาดหัวไชเท้าน่ะค่ะ
Lord: I'm glad you enjoy yourself. Don't worry too much about the kingdom's affairs. It's quite OK as it is.
ลอร์ด: ฉันดีใจนะที่เธอมีความสุข อย่าไปกังวลเรื่องของอาณาจักรมากนักเลย ทุกอย่างมันก็ค่อนข้างดีอยู่แล้ว
Sola: Working from time to time makes life perfect, my lord [giggle]
โซล่า: บางครั้งทำงานบ้างก็ทำให้ชีวิตสมบูรณ์แบบค่ะท่านลอร์ด [หัวเราะ]
Lord: Very true. Oh, who is this? I thought there was no maiden here other than Cotton.
ลอร์ด: เรื่องจริงเลย เอ๊ะ นั่นใครน่ะ? ผมคิดว่าที่นี่ไม่มีสาวดอกไม้คนอื่นนอกจากคัตตอนแล้วไม่ใช่เหรอ
A gentle blonde-haired girl wearing long white skirt is sitting on the opposite side of the table.
หญิงสาวผมบลอนด์ที่ดูอ่อนโยนในกระโปรงสียาวสีขาวกำลังนั่นอยู่ด้านตรงข้ามของโต๊ะ
Elena: My name is Elena, but I'm not a maiden, my lord. I'm a human magician working here under Isabelle's command.
เอเลน่า: ฉันชื่อเอเลน่าค่ะ แต่ฉันไม่ใช่สาวดอกไม้นะคะ ฉันเป็นมนุษย์และนักเวทย์ที่ทำงานที่นี่ภายใต้การบังคับบัญชาของอิซาเบลค่ะ
Lord: Eh? You have flowers on your head.
ลอร์ด: เอ๋? แต่เธอมีดอกไม้ที่หัวนี่
Elena: It's fake, my lord. Flower costume is very popular lately. [giggle]
เอเลน่า: ของปลอมค่ะท่านลอร์ด คอสตูมชุดดอกไม้กำลังเป็นที่นิยมกันในตอนนี้ [หัวเราะ]
Wevil: Elena, let go to our castle. We need more concubines.
วีวิล: เอเลน่า ไปอยู่ที่ปราสาทของเรากันเถอะ เราต้องการสนมเพิ่ม
Elena, a little pissed: Why do you need more concubines for?
เอเลน่าโกรธเล็กน้อย: ทำไมเธอถึงต้องการสนมเพิ่มอีกล่ะ?
Wevil: Our castle is full of underage girls. Our lord doesn't like them.
วีวิล: ปราสาทของเราเต็มไปด้วยสาวๆอายุน้อย ท่านลอร์ดไม่ชอบ
Iris: She means by human's standard, Elena, but we plants are surely exempt from it.
ไอริส: เธอหมายถึงตามมาตรฐานของมนุษย์น่ะ เอเลน่า แต่พืชอย่างพวกเราต้องได้รับการยกเว้นอยู่แล้ว
Wevil: I think you pass the standard. You are at least 25, right?
วีวิล: ฉันคิดว่าเธอผ่านมาตรฐานนะ เธออายุสัก 25 แล้วใช่ไหม?
Elena: I'm 17. Grrr....
เอเลน่า: ฉัน 17 ย่ะ แฮ่…
Wevil: Iris, that's old enough for a human right?
วีวิล: ไอริส สำหรับมนุษย์ มันแก่พอแล้วใช่ไหม?
Iris: Uh, sort of, I guess.
ไอริส: เอ่อ ประมาณนั้นมั้ง
Wevil: Then we ask her from Isabelle.
วีวิล: งั้นเราขอเธอจากอิซาเบล
Lord: Better ask Elena herself if she want to go to my castle. I don't want to force anyone against their will.
ลอร์ด: เราถามตัวเอเลน่าดีกว่าว่าเธออยากจะไปอยู่ที่ปราสาทของผมไหม ผมไม่อยากบังคับจิตใจใคร
Violet: Each and every maidens shall have their own free will....mumble....mumble... I don't want to force anyone...mumble...mumble.... .
ไวโอเล็ต: สาวดอกไม้ทุกคนมีอิสระที่จะทำตามหัวใจตัวเอง….พึมพำ….พึมพำ…..ผมไม่อยากบังคับจิตใจใคร….พึมพำ….พึมพำ…..
Elena: You are such a gentleman, my lord. I have made my decision. I want to live in your castle, but as your subordinate, not a concubine.
เอเลน่า: ท่านเป็นสุภาพบุรุษจริงๆค่ะ ท่านลอร์ด ฉันตัดสินใจแล้วค่ะ ฉันอยากไปอยู่ที่ปราสาทของท่าน แต่ในฐานะลูกน้องนะคะ ไม่ใช่นางสนม
Lord: Sure...sure. That is exactly what I had in mind. You, as well as all the maidens, are free to go anywhere you want anytime.
ลอร์ด: แน่นอนๆ ผมก็คิดไว้แบบนั้นอยู่แล้ว เช่นเดียวกับสาวดอกไม้ทุกคน เธอมีอิสระที่จะไปไหนก็ได้ทุกเวลาที่เธอต้องการ
Violet: His favorite pick-up line did it again...mumble...mumble.
ไวโอเล็ต: มุกจีบสาวอันโปรดทำสำเร็จอีกแล้ว….พึมพำ….พึมพำ…..
[Main hall]
[ห้องโถงหลัก]
Violet: I think you have prepared our bedroom, right?
ไวโอเล็ต: ท่านเตรียมห้องนอนไว้ให้พวกเราแล้วใช่ไหมคะ?
Isabelle: Yes, the lord sleeps in this room. All the girls in this room.
อิซาเบล: ค่ะ ท่านลอร์ดนอนในห้องนี้ ส่วนสาวๆที่เหลือนอนในห้องนี้
Iris: Eh? Why can't we sleep in the same room with our lord?
ไอริส: เอ๋? ทำไมเราไม่ได้นอนห้องเดียวกับท่านลอร์ดล่ะ?
Isabelle: Women are not supposed to sleep in the same room as men. It's this place's tradition.
อิซาเบล: ผู้หญิงไม่ควรนอนห้องเดียวกันกับผู้ชาย มันเป็นธรรมเนียมของที่นี่
Sola: Let do it according to the rule of her place. It's just one night, Iris, and our princess in pink might not get used to sleeping with our lord.
โซล่า: เราทำตามกฎของสถานที่ก็แล้วกัน แค่คืนเดียวเองน่า ไอริส แล้วเจ้าหญิงชุดชมพูของเราก็อาจจะไม่ชินกับการนอนกับท่านลอร์ดก็ได้
Iris, mumbling to herself: Grr...tradition...my donkey. You were born just a year ago.
ไอริสบ่นกับตัวเอง: แฮ่…ธรรมเนียม…บ้าบออะไรกัน เธอเพิ่งเกิดมาเมื่อปีที่แล้วเอง
[In some dark corner of the castle]
[มุมมืดมุมหนึ่งในปราสาท]
Lord: From what happened today, I have realized that you are very important to me. Do you want anything at all? If I can, I will do it for you.
ลอร์ด: จากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ผมเข้าใจแล้วว่าเธอสำคัญกับผมมากเพียงใด เธออยากจะได้อะไรไหม? ถ้าผมทำได้ ผมจะทำให้
Iris: You don't really know what I want? I have been trying to tell you several times, my lord.
ไอริส: ไม่รู้จริงๆเหรอคะว่าฉันต้องการอะไร? ฉันพยายามจะบอกท่านหลายครั้งแล้วนะคะ
Lord: I thought you were kidding.
ลอร์ด: ผมคิดว่าเธอล้อเล่น
Iris, with a little tear in her eyes: No, I wasn't. I begin to think that maybe I'm not good enou....
ไอริสน้ำตาคลอ: ไม่ได้ล้อเล่นค่ะ ฉันเริ่มจะคิดนิดๆแล้วว่าบางทีฉันอาจจะไม่ดีพอ…..
The lord pushes her onto the wall and kisses her.
ท่านลอร์ดดันเธอเข้ากำแพงแล้วก็จูบเธอ
Violet, walking into the vicinity: Peony, why are you standing here in the dark? What? Are you crying?
ไวโอเล็ตเดินเข้ามาใกล้: พีโอนี่ทำไมเธอมายืนในที่มืดๆแบบนี้? เอ๊ะ เธอร้องไห้เหรอ?
Peony: No, I'm not. Please excuse me. I have some work to do.
พีโอนี่: เปล่าค่ะ ขอตัวนะคะ ฉันมีธุระจะต้องทำ
Violet: Oh, the lord and Iris are over there. Hi, Huh? Am I interrupting something?
ไวโอเล็ต: อ้อ ท่านลอร์ดกับไอริสมาอยู่ตรงนี้นี่เอง เอ๋? ฉันมาขัดจังหวะอะไรรึเปล่าคะ?
Iris, secretly smiling, and thinks: [one drop of woman's tear can bend the will of the toughest men..giggle...]
ไอริสแอบยิ้มแล้วคิดว่า: [น้ำตาหนึ่งหยดของหญิงสาวสามารถทำลายความแข็งแกร่งชองผู้ชายได้นะคะ…อิๆ]
[The lord's bedroom, very late at night]
[ห้องนอนท่านลอร์ด ดึกมากแล้ว]
Isabelle: I know you haven't slept, my lord. I'm an oracle after all.
อิซาเบล: ฉันรู้นะคะว่าท่านยังไม่นอน ก็ฉันเป็นเทพพยากรณ์
Lord: Come sit here and talk. I don't get used to sleeping alone anymore.
ลอร์ด: มานั่งคุยกันสิ ผมไม่ชินกับการนอนคนเดียวอีกแล้ว
Isabelle: I can help you sleep. The scent from my flower can make people sleep like a child. It's so strong that I can use it in battle.
อิซาเบล: ฉันช่วยท่านให้หลับได้นะคะ กลิ่นจากดอกไม้ของฉันทำให้คนหลับปุ๋ยเหมือนเด็กตัวเล็กๆเลย มันแรงพอที่ฉันจะใช้ในการต่อสู้ได้ด้วย
Lord: Really? Let me ....
ลอร์ด: จริงรึ? ให้ผม…
The lord falls asleep.
ท่านลอร์ดผลอยหลับ
Isabelle: [giggle] That's fast? The bed here is very soft...hmm....
อิซาเบล: [หัวเราะ] เร็วจริงๆ เตียงนี้มันก็นุ่มดีนะ…อืม…
[The girl's bedroom, almost midnight]
[ห้องนอนสาวๆ เกือบเที่ยงคืนแล้ว]
Iris: No, the lord is mine, mine alone. I won't share him with you.
ไอริส: ไม่นะคะ ท่านลอร์ดเป็นของฉัน ของฉันคนเดียว ฉันไม่แบ่งให้เธอหรอก
Peony: A least let me watch. That's all I want. Let me stay near you and feel a little bit of your warmth.
พีโอนี่: อย่างน้อยก็ให้ฉันดูก็แล้วกัน ฉันต้องการแค่นั้นเองค่ะ ให้ฉันอยู่ใกล้ๆแล้วรับความอบอุ่นบ้างซักนิด
Iris: Fine. If that's all you want.
ไอริส: ได้ ถ้าเธอต้องการแค่นั้น
[Several minutes later]
[อีกหลายนาทีต่อมา]
Peony: ....I can't hold it anymore.....It's....
พีโอนี่:….ฉันๆ ฉันไม่ไหวแล้ว….มัน….
Iris: Stop right there. You are distracting my lord. You said you just want to watch.
ไอริส: หยุดเลยนะ เธอดึงความสนใจของท่านลอร์ดไป เธอบอกเองว่าจะดูเฉยๆ
Peony seems really upset.
พีโอนี่ดูอารมณ์เสียมาก
Iris, whispering: Let me go help Peony. She is too lovely to be left alone like that. Now it's your turn to watch us my lord.
ไอริสกระซิบ: ให้ฉันไปช่วยพีโอนี่ก่อนนะคะ เธอน่ารักเกินไปที่เราจะปล่อยเธอไว้คนเดียวแบบนั้น ตอนนี้ตาท่านดูพวกเราบ้างแล้ว
Lord: Could you girls stop being so....oh...not that....oh...that.....
ลอร์ด: พวกเธอทั้งสองคนหยุดได้แล้ว…เอ่อ….โอ้…นั่น…ตรงนั้นมัน….
[Midnight]
[เที่ยงคืน]
Peony: Damn it. Dirty dream again. Going outside is not working. What should I do with my life? Now I can't sleep anymore. Perhaps I should.....
พีโอนี่: แย่จริงๆ ฝันสกปรกอีกแล้ว การออกมาข้างนอกนี่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ฉันจะทำยังไงกับชีวิตฉันดีเนี่ย? ตอนนี้ฉันนอนไม่หลับอีกแล้ว บางทีฉันควรจะ…